กรอบการทำงานมองการจัดการระบบวิจัย ๙ มิติ ได้แก่ (๑) นโยบายและยุทธศาสตร์ (๒) องค์กรสนับสนุนทุน (๓) งบประมาณ (๔) หน่วยทำวิจัย (๕) บุคลากร (๖) โครงสร้างพื้นฐาน (๗) มาตรฐาน (๘) การจัดการผลผลิต (๙) การประเมิน และแบ่งงานวิจัยออกเป็น ๔ track ตามเป้าประสงค์ของงานวิจัย ได้แก่ Track 1 เพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ Track 2 เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ Track 3 เพื่อเสริมสร้างพลังสังคมและชุมชน และ Track 4 เพื่อนโยบาย
ฟังแล้วผมได้ความรู้ หรือได้คำ impact-led research system โดยมองเงินและทรัพยากรอื่นๆ ที่ใช้ในการวิจัยเป็นการลงทุน เป็น investment ไม่ใช่ expense จึงต้องมีการจัดการการลงทุนนี้ ให้ได้ impact ต่อบ้านเมืองตามเป้าหมายของการลงทุนนั้น โดยต้องมีความพอดีหรือดุลยภาพระหว่าง bureaucrat cum researchers – driven กับ market – driven research หรือใช้สัดส่วน 1 : 2
ในทุกสถานที่ที่คุยกันเรื่องระบบวิจัย จะมีคนบอกว่าระบบค่าตอบแทนนักวิชาการที่มีอยู่จริงในปัจจุบัน ไม่เอื้อต่อการทำงานวิจัย เพราะงานสอน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสอนหลักสูตรพิเศษ หรือนอกที่ตั้ง) ให้ค่าตอบแทนสูงกว่าหลายเท่า และเป็นงานที่ง่ายกว่า ประเด็นค่าตอบแทนนักวิจัยเก่งๆนี้ น่าจะเป็นโจทย์วิจัยเพื่อการพัฒนาระบบวิจัยด้วย ถือเป็นส่วนหนึ่งของมิติที่ ๕ ข้างบน
ผมชอบแนวคิดที่ ดร. นิพนธ์ พัวพงศกร เสนอว่า งานวิจัยต้องแสดง accountability ต่อ “เจ้าของ” และขอแสดงความยินดีต่อ วช. และสถาบันคลังสมอง ในความสำเร็จของการประชุมนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมประชุมคับคั่งกว่า ๓๐๐ คน
* การสร้างความต่อเนื่องของทุนสนับสนุนการวิจัยที่สำคัญ ด้วยการเก็บค่าธรรมเนียม การวิจัย จากผู้ได้รับประโยชน์จากการวิจัยนั้น โดยที่หากผู้ได้รับ ประโยชน์เป็นคนเล็ก คนน้อย รัฐออกเงินแทน หากภาคธุรกิจได้ประโยชน์ ภาคธุรกิจ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม นั้น (เป็นข้อเสนอหลักการโดย ดร. นิพนธ์ พัวพงศกร)
* ควรมีโจทย์วิจัยย่อย เรื่องแนวทางการจัดให้มีการลงทุนวิจัยอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ ในระดับประเทศ โดยมีแหล่งทุนวิจัยจากหลากหลายแหล่ง ไม่ขึ้นกับนโยบาย งบประมาณรายปีของประเทศเท่านั้น* งานวิจัยเพื่อสังคมและชุมชน มีลักษณะคล้ายคลึงกับงานวิจัยเพื่อพัฒนางานประจำ (R2R - Routine to Research) ที่ริเริ่มโดยศิริราช และ หลังจากนั้น สวรส. ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. ได้ร่วมกันสนับสนุนให้มีการนำไปใช้เป็นเครื่องมือ พัฒนาคน พัฒนางาน และพัฒนาองค์กร ในวงการสุขภาพ ทั่วประเทศ อ่านเรื่องราว ได้ที่นี่ ที่นี่ และที่นี่ ทีมวิจัย Track 3 น่าจะได้เข้าไปทำความรู้จักและตีความ เพื่อ พิจารณาขยายขอบเขตของ Track 3 ให้กว้างขึ้น โดยที่งานวิจัยในกลุ่มนี้อาจเรียกว่าเป็น people-empowerment research
* งานวิจัย Track 4 เพื่อนโยบาย เกี่ยวข้องกับงานวิจัยระบบ ซึ่งเรามี สวรส. ทำงานวิจัย และสนับสนุนการวิจัยระบบสาธารณสุข ก่อความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและเชิง นโยบายด้านสุขภาพอย่างมากมาย เช่น การเกิด สสส., การเกิดระบบประกันสุขภาพ ถ้วนหน้า และ สปสช., การเกิด สช. เป็นต้น นอกจากนั้น สวรส. ยังก่อกำเนิดสถาบัน วิจัยนโยบายอีก ๒ สถาบัน คือ สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) และ โครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) เป็นหน่วยงานวิจัยนโยบายอยู่ภายในกระทรวงสาธารณสุข และได้รับทุนวิจัยจากทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ เป็นที่ยอมรับนับถือมาก ขอเสนอให้ทีมวิจัย Track 4 พิจารณาว่าควรขยายผลการวิจัยไปครอบคลุมด้วยหรือไม่
วิจารณ์ พานิช
๑๓ ก.ค. ๕๔
http://www.gotoknow.org/blog/council/448808
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น